เนื้อผ้า 5 แบบ ระบายเหงื่อได้ดี และเหมาะสมกับการสวมใส่หน้าร้อน หน้าร้อนเมืองไทยใครๆ ก็รู้ว่าร้อนไม่ใช่เล่น จะออกไปไหนจะทำอะไรแต่ละทีก็ร้อน ตัวเหนียวเหนอะหนะเพราะเหงื่อที่ออกอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาเหงื่อท่วมจะหมดไปถ้าเรารู้จักเลือกเสื้อที่ผลิตจากเนื้อผ้า 5 ชนิดนี้
- ผ้าฝ้าย Seersucker
อากาศร้อนๆ แบบนี้ หลายคนมักเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย Seersucker ผ้าลายคลื่นซัมเมอร์ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นของเนื้อผ้าที่มีรอยย่นทั่วพื้นผิว เกิดจากการทอเส้นใยเป็นก้อนเท่าปลายเข็ม และด้วยความบางของผ้าที่ช่วยระบายอากาศและช่วยส่งผ่านความร้อนได้ดี ทำให้สวมใส่สบาย ไม่จำเป็นต้องรีด สามารถใส่ได้ทั้งกับเสื้อเชิ้ต เสื้อนอก หรือกางเกงขาสั้น - ผ้าฝ้าย Madras
ผ้าลายตารางหลากสีสันเหมือนกันทั้งหน้าและหลังชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย มีกรรมวิธีในการย้อมสีที่ทำให้ผ้าซีดจาง ดูมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าฝ้ายเนื้อบางเบาที่มีคุณสมบัติในการช่วยระบายความร้อนได้ดี สวมใส่สบาย - ผ้าลินิน (Linen)
ผ้าลินินเป็นผ้าที่มีรอยยับย่นเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบที่เป็นเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด ตัวเนื้อผ้ามีเส้นใยที่เหนียว ดูดความชื้นและระบายความร้อนได้ดีกว่าผ้าฝ้าย จึงเป็นเนื้อผ้าที่เหมาะกับประเทศในเขตร้อนมากที่สุด สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด มีความสวยงามเวลาสวมใส่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว - ผ้าแชมเบรย์ (Chambray)
ผ้าแชมเบรย์เป็นผ้าที่มีที่มาจากประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันผ้าชนิดนี้เป็นเหมือนเดนิมประจำฤดูร้อน เนื้อผ้ามีสีฟ้าอมเทาซึ่งเป็นตัวแทนของ Blue Collar ส่วนใหญ่แล้วเนื้อผ้าชนิดนี้จะนิยมใช้ออกแบบเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยเฉพาะเสื้อเชิ้ตและกางเกงประเภทต่างๆ - ผ้าป็อปปลิน (Poplin)
ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าที่เหมาะแก่การออกแบบสำหรับใส่ทำงาน เพราะตัวเนื้อผ้ามีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถคงความเนี้ยบได้มากกว่าเนื้อผ้าชนิดอื่น ทำให้เกิดรอยยับได้ยาก เหมาะกับการใส่ทำงานเพื่อรับมือกับหน้าร้อน เพราะตัวเนื้อผ้ามีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศได้ดี และยังมีความบางเบา สวมใส่สบาย